วันศุกร์ที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2558

วันส่งเจ้าขึ้นสวรรค์ปี2558


วันส่งเจ้าขึ้นสวรรค์ ปี 2558 หรือที่ภาษาจีนเรียกว่า #ซิ้งเจียที ปีนี้ตรงกับวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2558
วันส่งเจ้าขึ้นสวรรค์ และ

              #วันส่งเจ้าขึ้นสวรรค์ และ#การไหว้ส่งเจ้าขึ้นสวรรค์ ภาษาจีนแต้จิ๋วเรียกว่า #ซิ้งเจี่ยที เป็นหนึ่งในประเพณีเก่าแก่ของ
จีน ซึ่งในปัจจุบันอาจไม่ค่อยได้พบเห็นกันเท่าใดนัก ทั้งนี้เชื่อกันว่า วันส่งเจ้าขึ้นสวรรค์เป็นวันที่เทพเจ้าของจีนจะเสด็จขึ้นสู่สรวงสวรรค์เพื่อไปรายงานความประพฤติของคนในโลกมนุษย์
ให้เง็กเซียนฮ่องเต้ทราบซึ่ง"เจ้า"ที่ว่านี้เดิมทีหมายถึง"เจ้าเตา"
ซึ่งเป็นเจ้าที่สถิตอยู่กับเตาหุงข้าวของบ้านนั้น ๆ

              เนื่องจากเจ้าเตารู้ถึงเหตุการณ์ต่าง ๆ ของคนในบ้านเป็นอย่างดี ว่าใครไปทำความดีความชั่วที่ไหนมาบ้าง ดังนั้นเจ้าเตาจะนำพฤติการณ์ของคนในบ้านไปรายงานต่อเง็กเซียนฮ่องเต้บนสรวงสวรรค์ซึ่งการที่เจ้าบ้านจะต้องทำพิธีไหว้เจ้าเตานั้นก็เพื่อให้เจ้าเตาไปรายงานแต่ในสิ่งที่ดีงามของตนให้เง็กเซียนฮ่องเต้ทราบ

              #สำหรับความเป็นมาของเจ้าเตานั้นมีเรื่องเล่าหลากหลาย แต่ที่น่าสนใจคือเรื่องของ ชายหนุ่มคนหนึ่งที่มีชื่อว่า ซางเซ็ง เดิมทีซางเซ็งเป็นมหาเศรษฐีที่ดินและเจ้าของปศุสัตว์ใหญ่โต มีภรรยาสาวสวยชื่อ โกวติงเซียง ทั้งคู่ครองรักกันอย่างมีความสุขมาเป็นเวลานาน กระทั่งซางเซ็งได้ หลีไห่ตัง ซึ่งเป็นนางบำเรอมาเป็นภรรยาน้อย เขาจึงแยกทางกับโกวติงเซียงภรรยาคนแรก

              แต่หลังจากอยู่กินกับภรรยาคนใหม่ได้เพียง 2 ปี ฐานะของซางเซ็งก็เปลี่ยนไป กลายเป็นเพียงยาจกที่ไม่มีทรัพย์สินติดตัว เมื่อหลีไห่ตังเห็นว่า สามีที่ไปแย่งเขามาหมดเงินแล้ว นางก็หนีไปแต่งงานใหม่ ปล่อยให้ซางเซ็งกลายเป็นขอทานเร่ร่อนตามลำพัง

              วันหนึ่งในฤดูหนาวที่อากาศเย็นจัด ซางเซ็งในสภาพซูบผอมและหิวโซ ได้เดินขอทานผ่านบ้านหลังหนึ่ง เมื่อคนใช้บ้านในนั้นเห็นเข้าจึงเรียกเขาเข้าไปในบ้าน ก่อนจัดข้าวปลาอาหารมาเลี้ยง ซางเซ็งได้ถามถึงเจ้าของบ้านผู้เป็นนายจนทราบว่า เป็นหญิงมีอายุที่ใจบุญ ชอบช่วยเหลือคนยากจน แต่อยู่คนเดียวไม่มีครอบครัว เขาก็รู้สึกชื่นชมนางอยู่ในใจ

              แต่ต่อมาเมื่อเขาได้พบเจ้าบ้านคนนั้น เขาก็จำได้ว่านางคือ โกวติงเซียง ภรรยาคนแรกของเขานั่นเอง ด้วยความสำนึกและละอาย จนไม่กล้าเผชิญหน้ากับนาง แต่ไม่รู้ว่าจะไปซ่อนที่ไหน เขาจึงตัดสินใจคลานเข้าไปในเตาไฟกระทั่งถูกเผาจนเสียชีวิต

              เมื่อโกวติงเซียงพบว่า อดีตสามีกลายเป็นเถ้าถ่านไปแล้ว นางเกิดความสงสารและเศร้าโศก หลังจากนั้นไม่นาน นางก็ตายตามอดีตสามีไป เมื่อเง็กเซียนฮ่องเต้ทราบเรื่องดังกล่าว พระองค์ทรงชมเชยซางเซ็งในความเด็ดเดี่ยวกล้าหาญของเขา ที่สำนึกต่อความผิด พระองค์จึงโปรดประทานให้เขาเป็นเจ้าเตา ขณะเดียวกันผู้คนได้ให้ความเคารพโกวติงเซียงด้วย เนื่องจากนางเป็นผู้มีเมตตาธรรมสูงส่ง

              นับตั้งแต่นั้นมา ชาวจีนจะทำพิธีไหว้เจ้าเตาทุกวันที่ 23 และ 24 ในเดือน 12 ของจีน ซึ่งเป็นกำหนดเวลาที่เจ้าเตาจะต้องขึ้นไปรายงานความดีชั่วของคนที่อยู่ในบ้านแต่ละหลังให้เง็กเซียนฮ่องเต้บนสรวงสวรรค์ได้ทรงทราบ ทว่า ในปัจจุบันนี้ คนส่วนใหญ่ได้หันไปไหว้เทพต่าง ๆ แทนการไหว้เจ้าเตาแล้ว แต่ไม่ว่าจะไหว้เทพหรือเจ้าเตา ก็ยังถือเป็นการส่งเจ้าขึ้นสวรรค์เหมือนกันนั่นเอง

              ทั้งนี้ วันส่งเจ้าขึ้นสวรรค์ จะตรงกับวันที่ 24 เดือน 12 ของจีน ซึ่งในปี 2558 นี้ ชาวจีนจะทำพิธีไหว้ส่งเจ้าขึ้นสวรรค์ ในวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2558 ส่วนสิ่งของที่ต้องเตรียมในพิธีไหว้ส่งเจ้าขึ้นสวรรค์นั้น ขึ้นอยู่กับความเชื่อของแต่ละบ้าน โดยส่วนใหญ่มักประกอบด้วย ดังนี้

#สิ่งของที่ใช้ในพิธีไหว้ส่งเจ้าขึ้นสวรรค์

๑)กระถางธูปบรรจุผงธูป
๒)แพแดงและหางนกยูงใหม่
๓)ธูป 3 หรือ 5 ดอก
๔)แจกกันใส่ดอกไม้สดหรือพวงมาลัย
๕)กระทงใส่ค้อซี (หงิ่งเตี๋ย‚ คอซี‚ กิมเต้าหงิ่งเต้า1คู่‚
เสื้อผ้าเทพเจ้า(ไฉ่ซิ้งเอี้ยเพ้า)‚เทียงเถ่าจี้1ชุด‚
กระดาษเทียบเชิญสีแดง)
๖)โหงวก้วย (ผลไม้ 5 อย่าง กล้วย,ส้ม,องุ่น,สาลี่,แอปเปิ้ล)
๗)น้ำชา 5 ถ้วย
๘)ขนมอี้ ( สาคูแดงต้มสุก ) 3ถ้วย
๙)ขนมจันอับ หรือ ขนมจับกิ้ม 1 จาน
๑๐)เจฉ่าย 3 อย่าง
๑๑)เปี้ยทิ้ง 1 ถุง
๑๒)จิ๋วเปี้ย1ชุด


              โดยระหว่างทำพิธี เจ้าบ้านหรือผู้ไหว้ส่งเจ้าขึ้นสวรรค์ต้องกล่าวขอพร ดังนี้

              "ขอให้ท่านเทพเจ้าเดินทางไปกลับโดยสวัสดิภาพ หากข้าพเจ้าทำผิดพลาดประการใด ขอท่านโปรดอภัย เมื่อกลับมาขอให้นำสิริมงคลมาสู่บ้าน"

              อย่างไรก็ตาม โดยปกติแล้วก่อนจะถึงวันส่งเจ้าขึ้นสวรรค์ แต่ละบ้านมักจะทำความสะอาดอาคารบ้านเรือน รวมถึงศาลของเจ้าทุกองค์ที่บูชาอยู่ เพื่อเป็นการขจัดสิ่งไม่ดีออกจากบ้าน และหลังจากทำพิธีแล้ว ก็จะมีการนำเสื้อผ้าเทพเจ้าหรือกระดาษไหว้ต่าง ๆ ไปเผา โดยบางส่วนนิยมทำความสะอาดเรือนเทพเจ้า ตัวองค์เทพเจ้า และกระถางธูป หลังเสร็จพิธีอีกด้วย


เครดิตข้อมูล : fengshuitown.com
เครดิตภาพ : phuketvegetarian.com



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น